วันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ปราสาทเมืองสิงห์


ปราสาทเมืองสิงห์


อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ เป็นการศึกษาโบราณสถานที่ทรงคุณค่า มีอายุกว่า 800 ปี ได้เห็นถึงอิทธิพลของขอมในอดีต และเรียนรู้ความเป็นมาจากสถาปัตยกรรมการสร้างปราสาทขอม

ปราสาทเมืองสิงห์ ตั้งอยู่ในอุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ เขตตำบลสิงห์ อำเภอไทรโยค แต่ก่อนเคยเป็นเมืองสิงห์ มีผังเมืองเกือบเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส อยู่บนที่ราบริมฝั่งด้านขวาของแม่น้ำแควน้อย พื้นที่ประมาณ 641 ไร่ 1 งาน 65 ตารางวา กำแพงเมืองก่อด้วยศิลาแลง ขนาดกว้าง 880 เมตร มีประตูเข้าออกทั้ง 4 ด้าน บริเวณด้านนอกกำแพงเมืองสามด้าน (ด้านตะวันตก เหนือ และตะวันออก) มีคูน้ำคันดินกั้นเป็นกรอบล้อมรอบอีก 7 ชั้น ส่วนทางด้านทิศใต้ กำแพงเมืองคดโค้งไปตามแนวลำน้ำแควน้อย ที่เป็นปราการธรรมชาติ

ภายในอุทยานได้แบ่งพื้นที่เข้าชมโบราณสถานเป็นส่วนๆ มีทั้งการจัดแสดงภายในอาคาร และซากโบราณสถานทั้ง 4 แห่ง

พิพิธภัณฑ์จัดแสดงศิลปวัตถุ
เป็นอาคารสำหรับเก็บ และจัดแสดงวัตถุต่างๆ ที่ได้จากการขุดแต่งโบราณสถาน เพื่อให้ได้ศึกษา เรียนรู้ เช่นภาชนะดิน เครื่องมือเครื่องใช้ เครื่องประดับที่ทำด้วยหินและแก้ว รวมทั้งโครงกระดูก ที่ขุดค้นได้ทางโบราณคดี ที่มีอายุกว่า 2000 ปี

เขตซากโบราณสถานที่เป็นสถานที่จริง
โบราณสถานหมายเลข 1 เป็นโบราณสถานที่มีความสมบูรณ์ที่สุดในอุทยาน ตั้งอยู่เกือบกึ่งกลางของตัวเมือง มีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ก่อสร้างด้วยศิลาแลง ประดับด้วยลวดลายปูนปั้น มีร่องรอยของกำแพงแก้วล้อมรอบทั้ง 4 ด้าน มีชานชาลาศิลาแลงรูปกากบาท ก่อนเดินขึ้นบันไดสู่ผ่านเข้าซุ้มประตูขนาดใหญ่ ที่เรียกวัน "โคปุระ" ซุ้มประตูมีอยู่ทั้ง 4 ทิศ เชื่อมต่อกันด้วยทางเชื่อมที่ก่อเป็นผนังสองด้าน มีหลังคาทำจากศิลาแลงคลุมโดยรอบ เรียกว่า "ระเบียงคด" สันหลังคาประดับด้วยบราลี

เมื่อผ่านซุ้มประตูเข้าไปส่วนในสุด จะเป็นบริเวณสำหรับประกอบพิธีกรรม มีปรางค์ประธานเป็นศูนย์กลาง ยังคงเห็นเป็นฐานรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสย่อมุม 20 ส่วนยอดพังทลายหายไปแล้ว ภายในประดิษฐานพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ในภาคที่เรียกว่า "เปล่งรัศมี" คือ มีพระกร 8 กร (พระกรทั้งหมดได้หักหมดแล้ว) ถัดไปทางบริเวณซุ้มประตูโคปุระด้านหลังของปรางค์ประธาน มีรูปเคารพพระนางปรัชญาปารมิตา นอกจากนี้บริเวณใกล้ๆ ปรางค์ประธานยังมีมีอาคารเล็กๆ ที่เรียกว่า "บรรณาลัย" หรือเป็นที่เก็บคัมภีร์ของพุทธศาสนาในสมัยนั้น

โบราณสถานหมายเลข 2 ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของหมายเลข 1 ไม่ไกลกันนัก ก่อด้วยศิลาแลง ประดับด้วยลวดลายปูนปั้น มีรูปแบบคล้ายกับโบราณสถานหมายเลข 1 คือตัวปราสาทล้อมรอบด้วยกำแพงแก้ว ตั้งอยู่บนฐานเขียงรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าซ้อนกัน 2 ชั้น ภายในมีปรางค์ประธาน 1 องค์ มีโคปุระ 4 ทิศ เชื่อมต่อด้วยระเบียงคด ส่วนที่หลงเหลือให้เห็นในส่วนที่ประกอบพิธีคือแท่นฐานปฏิมากรรมที่วางเรียงอยู่ในแนวของระเบียงคด

โบราณสถานหมายเลข 3 อยู่นอกกำแพงแก้ว ด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของหมายเลข 1 มีร่องรอยให้เห็นว่ามีฐานขนาดเล็ก ก่อด้วยอิฐและศิลาแลง มุมทั้ง 4 ของโบราณสถานมีแผ่นหินปักไว้ คล้ายกับจะเป็นใบเสมา

โบราณสถานหมายเลข 4 อยู่ทางทิศตะวันตก ของหมายเลข 1 เป็นอาคารฐานรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าคล้ายเรือนแถว 4 ห้อง

ที่มาhttp://www.kanchanaburi.co/th/specific-place/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B9%8C/

6 เคล็ดลับ ที่ช่วยให้นอนหลับสบาย

การนอนผิดวิธี ไม่ถูกสุขลักษณะ ก็อย่างเช่น คนที่นอนตั้งแต่ 22.00-06.00 น. กับคนที่นอนตั้งแต่ 01.00-09.00 น. จะมีความกระฉับกระเฉงแตกต่างกัน อีกทั้งยังส่งผลต่อระบบการทำงานภายในที่ไม่เหมือนกันอีกด้วย นอกจากนี้เตียง ท่านอน ชุดนอน และแสงไฟต่างๆ ก็ยังส่งผลต่อการนอนว่าคุณจะตื่นมาพร้อมสุขภาพที่ดีหรือแย่ได้อีกด้วย
การ นอนหลับ อย่างเพียงพอถือเป็นสิ่งสำคัญของชีวิต เพราะมีประโยชน์หลายประการ อาทิ ทำให้สุขภาพดี ไม่เป็นโรคร้ายแรงต่างๆ ซึ่งเชื่อว่าก่อนจะนอน แต่ละคนกมักมีวิธีที่จะทำให้ตัวเองหลับสบายด้วยกันทั้งนั้น ทีนี้เรามาดูกันว่า สิ่งที่เราเคยรู้เกี่ยวกับวิธีช่วยให้ นอนหลับ สบายนั้น มันใช่วิธีที่ถูกต้อง และได้ผลดีต่อสุขภาพ และการพักผ่อนของคนเราจริงหรือไม่
6 ความจริง ของสิ่งที่เราเชื่อว่ามีผลให้ นอนหลับ สบาย
1. ไม่งีบกลางวัน
การใช้ชีวิตในแต่ละวันของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน บางคนมีเวลาว่างยาวๆ ช่วงกลางวัน บางคนว่างทั้งวัน หรือบางคนว่างเฉพาะช่วงเย็น ซึ่งการใช้ชีวิตในวันๆหนึ่ง อาจต้องสูญเสียพลังงานมาก ทำให้บางคนง่วงระหว่างวัน ซึ่งมีความเชื่อกันมาว่า ถ้านอนกลางวัน แล้วจะทำให้หลับยาก ซึ่ง ความจริงนั้น คือคุณสามารถงีบได้ แต่เพียงแค่ไม่นาน เกิน 30 นาที หรือยิ่งถ้าเป็นช่วงเย็น นี่ไม่ควร นอนหลับ เด็ดขาด ไม่เช่นนั้นอาจเกิดอาการนอนไม่หลับ หรือตื่นช่วงกลางดึกได้
2. นอนก่อนเที่ยงคืน สุขภาพดี
อันนี้ คือความเชื่อที่ถูกต้อง เพราะการนอนหลังเที่ยงคืน นั้นจะทำให้รู้สึกเพลีย และอาจได้ขอบตาหมีแพนด้าเป็นของแถมด้วย ดังนั้น เพื่อสุขภาพที่ดี ให้ลองฝึกเข้าและตื่นนอนให้เป็นเวลาทุกวันเพื่อสร้างความเคยชินให้อยากนอนและ ตื่นเมื่อถึงเวลาควรลุกจากเตียงทุกเช้าในเวลาเดิม
3. เรื่องของไฟ
ไฟห้องนอน เป็นอะไรที่หลายคนถกเถียงกันพอสมควร บางคนก็บอกว่าชอบนอนเปิดไฟ บางคนก็ต้องปิดไฟไม่เช่นนั้นนอนไม่หลับ ซึ่งถ้าถามว่าเพื่อสุขภาพที่ดีแล้วควรทำอย่างไร คำตอบคือ ควรดับไฟ เพื่อให้ดวงตาและร่างกายได้พักผ่อนอย่างแท้จริง
4. เงียบๆ สิดี
ความเงียบและมืดอุณหภูมิที่พอเหมาะของร่างกายช่วยให้เกิดการหลับขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว เราควรจัดบรรยากาศในห้องนอนให้เหมาะสมและขจัดสิ่งกระตุ้นเหล่านี้ออกไป
5. ดูหนังก่อนนอน
การดูหนัง ช่วยกล่อมให้เราเคลิ้มหลับได้ก็จริงอยู่ แต่ก็ควรจะต้องเลือกประเภทหนังสักหน่อย อย่าดูหนังบู๊ล้างผลาญ หนังผี หนังตื่นเต้น ก่อนนอนเด็ดขาด เพราะถ้าคุณตื่นเต้น หัวใจก็จะทำงานหนัก จนทำให้นอนไม่หลับ
6. ออกกำลังกาย หลับสบายจริงหรือ?
หลายคนมักคิดว่าออกกำลังกายก่อนนอนจะทำให้หลับสบาย แต่มันผิด เพราะร่างกายจะอ่อนเพลียแค่ช่วงที่เสร็จสิ้นการออกกำลังกาย แต่จะไม่รู้สึกอยากนอน และเมื่อได้นั่งพักหรืออาบน้ำร่างกายก็จะรู้สึกสดชื่น (จนไม่อยากจะนอน) ดังนั้น ทางที่ดีจึงควรออกกำลังกายก่อน 4 โมงเย็น (15.00-17.00 น.) วันละ 1/2 ชม. ถึง 2 ชม. จะช่วยให้หลับเร็วตื่นเร็ว
ทั้งหมดนี้ เป็นความจริงเกี่ยวกับ เคล็ดลับการนอนแบบง่ายๆ ที่ช่วยให้คุณชาร์ตแบตร่างกายด้วยการ นอนหลับ อย่างสบายๆ แบบสุขภาพดี พอตื่นเช้ามา ก็จิตใจสดชื่นพร้อมรับวันทำงานได้อย่างเต็มที่เลยล่ะค่ะ


ที่มา http://health.mthai.com/howto/health-care/10197.html

วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

การเลือกคบเพื่อน


           การคบเพื่อนเป็นสิ่งสำคัญมาก เนื่องจากเพื่อนมีอิทธิพลต่อจิตใจและการกระทำของคุณเพราะคุณมักจะทำตามเพื่อนของคุณโดยนึกว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่บางสิ่งก็เป็นสิ่งที่ไม่ดีคุณอาจจะคิดว่าไม่เห็นจะไม่ดีตรงไหนก็เพราะคุณอยู่กับเพื่อนและเห็นการกระทำของเพื่อนของคุณจนชินตา จึงไม่รู้สึกอะไร แต่พ่อ-แม่ของคุณเล็งเห็นเพราะท่านมีประสบการณ์มากกว่าคุณ ดังนั้นการคบเพื่อนจึงเป็นสิ่งสำคัญดังนั้นเราจึงมีวิธีในการตรวจสอบว่าเพื่อนของคุณเป็นเพื่อนที่ควรคบหรือไม

1.เพื่อนที่ดีต้องมีน้ำใจ รู้จักให้และรู้จักช่วยเหลือกันและกัน
2.เคารพสิทธิกันและกัน
3.ให้เกียรติกันและกัน
4.รู้จักให้อภัยกันและกัน
5.ชักชวนเราไปในทางที่ดี ไม่ใฝ่อบายมุข
6.มีความจริงใจให้กันและกัน
7.รู้จักตักเตือนกันและกัน
8.ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
9.ไม่เอาเปรียบซึ่งกันและกัน
10.รู้จักเป็นผู้แพ้บ้าง รับฟังเหตุผลของกันและกัน


ที่มา http://likitdee.tripod.com/aboutus/likitwaisai4.htm